Index สมัคร งาน
6 ซมและการอักเสบรอบผิวน้อยกว่า 2 ซม การรักษาจะรักษาแบบผู้ป่วยนอกได้โดยการเพาะเชื้อจากแผล ให้ยาปฏิชีวนะนาน 7-14 วัน ล้างแผลด้วยน้ำเกลือปราศจากเชื้อวันละสองครั้ง หากไม่หายในสองสัปดาห์แนะนำให้พบแพทย์ แนวทางรักษาแผลที่รุนแรง ความกว้างมากกว่า 2 ซม ลึกมากกว่า 0. 6 ซมและการอักเสบรอบผิวมากกว่า 2 ซม ควรจะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล ทำการเพาะเชื้อ ตัดชิ้นเนื้อ หรือทำการขูดเนื้อเยื่อจากก้นแผล ควรจะได้รับปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ หลีกเลี่ยงการกดทับ หากมีหลอดเลือดแดงตีบจะต้องผ่าตัดแก้ไข
สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน นอกจากการดูแลใส่ใจเรื่องอาหารการกิน เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติแล้ว การดูแลใส่ใจในเรื่องความสะอาดของบาดแผล ก็นับว่าเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากบาดแผลเกิดการลุกลามและติดเชื้อแทรกซ้อนได้ง่าย หากไม่อยากต้องสูญเสียอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่ง ก็ควรหันมาใส่ใจ "แผลเบาหวาน" ก่อนสายเกินไป!!
แผลเบาหวานที่เท้ารักษาได้ ไม่ต้องตัดขา | นพ. กฤษฎิ์ พฤกษะวัน - YouTube
พุฒินาท ลิ้มสุวรรณ แพทย์ประจำศูนย์รักษาแผลเบาหวานที่เท้า โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ศูนย์รักษาแผลเบาหวานที่เท้า ชั้น 10 โทร. 02-836-9999 ต่อ 11001-2
คลินิกเบาหวาน ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อ ชั้น 4 โซน D #คลินิกเบาหวาน ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อ #โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ #เบาหวานที่เท้า #แผลเบาหวานที่เท้า #การรักษาแผลเบาหวานที่เท้า #การดูแลแผลเบาหวานที่เท้า #คลินิกรักษาแผลเบาหวานที่เท้า #แผลที่เท้าผู้ป่วยเบาหวาน #รักษาแผลเบาหวานที่เท้า #Diabetic Foot
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด 2. ดูแลรักษาความสะอาดและเช็ดเท้าให้แห้ง 3. ตรวจเท้าเป็นประจำทุกวัน เพื่อหารอยโรค 4. เลือกรองเท้าให้เหมาะสม ไม่บีบหรือรัดแน่นจนเกินไป 5. ใช้ครีมทา รักษาผิวหนังแห้ง 6. สวมถุงเท้าก่อนใส่รองเท้า 7. ห้ามแช่เท้าในน้ำร้อน 8. ตัดเล็บและควรดูแลเล็บอย่างถูกวิธี 9.
วิธีดูแล "แผลเบาหวาน" อย่างถูกต้อง ยาต้านจุลชีพชนิดทาเฉพาะที่ (ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียสำหรับทาที่แผล) สำหรับการรักษาแผลที่เท้าในผู้ป่วยเบาหวาน | Cochrane แผลเบาหวานที่เท้ารักษาถูกวิธี ไม่ต้องตัดขา โรคแผลเบาหวานที่เท้าไม่ต้องตัดขา 11 ตุลาคม 2559 | โดย นพ. กฤษฎิ์ พฤกษะวัน ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ (เท้า-ข้อเท้า) โรงพยาบาลเวชธานี 12, 634 ปัญหาแผลเบาหวานที่เท้า เป็นปัญหาที่สำคัญในระบบสาธารณสุขของประเทศไทย เนื่องจากเมื่อเกิดแผลขึ้นแล้ว มักจะใช้เวลาในการรักษานาน ปัญหาแผลเบาหวานที่เท้า เป็นปัญหาที่สำคัญในระบบสาธารณสุขของประเทศไทย เนื่องจากเมื่อเกิดแผลขึ้นแล้ว มักจะใช้เวลาในการรักษานาน ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตลดลงและมีภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา โดยสิ่งที่ทำให้แผลเบาหวานที่เท้าหายยาก มีสาเหตุหลักมากจาก การเป็นโรคเบาหวาน โดยโรคเบาหวานจะส่งผลกระทบให้เกิดความผิดปกติต่อระบบต่างๆ เช่น 1. ระบบประสาทรับความรู้สึก ทำให้ผู้ป่วยสูญเสียการรับรู้ความรู้สึกเจ็บปวด ความรู้สึกร้อนเย็น จึงทำให้ผู้ป่วยที่มีแผลเบาหวานไม่รู้สึกเจ็บปวด และยังคงใช้เท้าตามปกติ ทำให้เกิดแรงกดบริเวณแผลตลอดเวลา แผลจึงหายช้าหรือไม่หาย 2. ระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้ผู้ป่วยมีผิวหนังแห้ง มีเหงื่อออกน้อย การหดตัวและขยายตัวของหลอดเลือดผิดปกติ เท้าบวม ผิวหนังแห้งและแตกง่าย ซึ่งเป็นปัจจัยที่กระตุ้นต่อการเกิดแผลเบาหวานที่เท้าได้ 3.
สวมถุงเท้าก่อนใส่รองเท้า 7. ห้ามแช่เท้าในน้ำร้อน 8. ตัดเล็บและควรดูแลเล็บอย่างถูกวิธี 9. ฉากที่ตัวละคร "แม่ย้อย" ในละครเรื่อง "กรมกรรม" เป็นโรค เบาหวาน และมีแผลที่ขา สร้างความสะเทือนใจให้กับแฟนคลับละครหลายๆ คน แต่ทำไมผู้ป่วย โรคเบาหวาน ถึงมีแผลขา และที่เท้าได้? ผู้เป็นเบาหวานประมาณร้อยละ 15 จะเกิดแผลที่เท้า และร้อยละ 14-24 ของผู้ป่วยกลุ่มนี้จะต้องถูกตัดขา สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย คาดว่าในปี พ. ศ. 2553 จะมีผู้เป็นเบาหวานประมาณ 2. 1 ล้านคน และจะมีผู้ที่ถูกตัดเท้าถึง 27, 300 คน หรือประมาณ 3-4 คนต่อวัน สัญญาณเตือนโรคแผลเบาหวานที่เท้า ขนที่เท้าหรือขาจะน้อย สีผิวของขาจะคล้ำขึ้น บางรายอาจจะซีด คลำชีพขจรที่หลังเท้าไม่ได้ เท้าจะเย็นอุณหภูมิเท้าสองข้างไม่เท่ากัน แผลเรื้อรังที่เท้า เล็บหนาตัว หากเป็นมากจะมีการเน่าของนิ้ว โรคแผลเบาหวานที่เท้าจะมีอาการอย่างไร? ระยะแรก: อาจไม่มีอาการใดๆ เมื่อมีการตีบตันมากขึ้นจะเริ่มมีปัญหาการปวดที่ขาเวลาเดินได้ซักระยะหนึ่งจนจำเป็นต้องหยุดพัก ระยะต่อมา: การตีบตันเป็นมากขึ้น ผู้ป่วยจะเริ่มเดินได้น้อยลงเพราะความปวด อาจมีแผลเกิดขึ้นซึ่งแผลรักษาไม่หายด้วยการรักษาปกติ จนไปถึงนิ้วเท้าดำ ตาย เสียขาได้ มีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน ที่ไม่มีอาการปวดขาใดๆ เลยจนกระทั่ง เกิดแผลไม่หาย หรือ นิ้วเท้าดำตาย ซึ่งโรคได้ดำเนินไปมากแล้ว จะรู้ได้อย่างไร?
00 - 16. 00 น.